Home สุขภาพ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคหัวใจที่ไม่ควรมองข้าม
สุขภาพความรู้รอบตัว

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคหัวใจที่ไม่ควรมองข้าม

หัวใจ เป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อซึ่งภายในแบ่งออกเป็น 4 ห้อง มี 2 ห้องบน และ 2 ห้องล่าง อยู่บริเวณส่วนกลางใต้กระดูกหน้าอกค่อนข้างไปทางซ้ายเล็กน้อย หัวใจมีหน้าที่สูบฉีดโลหิต นำพาออกซิเจนและสารอาหารไปยังทุกส่วนของร่างกาย หัวใจซีกขวารับโลหิตที่ใช้แล้วจากร่างกาย แล้วสูบฉีดไปยังปอดเพื่อรับออกซิเจน โลหิตที่มีออกซิเจนสูงก็จะไหลกลับไปยังหัวใจด้านซ้าย และก็จะถูกสูบฉีดโลหิตผ่านเส้นเลือดใหญ่ไปยังทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นหัวใจจึงถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกายของเราจึงจำเป็นต้องดูแลหัวใจให้ดีๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่าง โรคหัวใจ ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้เป็นหลายกลุ่มโรค เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคติดเชื้อบริเวณหัวใจ และมีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ บางคนรู้ตัวว่าเป็นโรคหัวใจ บางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นจึงทำให้ไม่ได้ดูแลตนเองได้อย่างเต็มที่ และถูกวิธี ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนมารู้จักกับโรคหัวใจให้มากขึ้นกันค่ะ

อาการของโรคหัวใจที่พบได้บ่อย

  • อาการเจ็บหน้าอก

ลักษณะ: ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บแน่น หรือมีความรู้สึกคล้ายถูกกดทับในบริเวณหน้าอก บางครั้งอาจรู้สึกเจ็บแปล๊บหรือรู้สึกเหมือนการถูกเผา

ที่มา: เกิดจากการที่หัวใจไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ เช่น ในกรณีของโรคหลอดเลือดหัวใจที่ตีบตัน

  • หายใจไม่สะดวก

ลักษณะ: รู้สึกหายใจไม่สะดวกหรือหอบเหนื่อย เกิดขึ้นแม้ในขณะพักหรือทำกิจกรรมเบาๆ

ที่มา: อาจเกิดจากหัวใจทำงานไม่เต็มที่ ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังปอดไม่สะดวก หรือจากภาวะหัวใจล้มเหลว

  • อาการเหนื่อยง่าย

ลักษณะ: รู้สึกเหนื่อยง่ายอย่างผิดปกติ แม้หลังจากทำกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้แรงมาก

ที่มา: สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปยังร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การป้องกันโรคหัวใจ

ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคหัวใจ สำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจแม้ไม่มีสาเหตุเฉพาะเจาะจงชัดเจน แต่ก็มีปัจจัยสิ่งหลายอย่างที่หากเราควบคุมได้ดีจะช่วยลดโอกาสโรคหลอดเลือดหัวใจลงได้มาก

  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
  • ควบคุมความดันโลหิตไม่ให้สูงเกินมาตรฐาน ควบคุมคอเลสเตอรอล และเบาหวาน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
  • รับประทานอาหารที่มีเกลือและไขมันอิ่มตัวต่ำ
  • ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน
  • ลดความเครียด
  • ฝึกสุขอนามัยที่ดี

การรักษาโรคหัวใจ

การรักษาโรคหัวใจมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทของโรคหัวใจ, ความรุนแรง, และสภาพโดยรวมของผู้ป่วย การรักษามีตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปจนถึงการใช้ยาและการผ่าตัด

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

  • การลดน้ำหนัก หากมีน้ำหนักเกิน
  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • การรับประทานอาหารที่สมดุลและดีต่อสุขภาพ โดยเน้นผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไขมันดี
  • การเลิกสูบบุหรี่และลดการบริโภคแอลกอฮอล์
  • การจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวัน

การใช้ยา

  • ยาลดคอเลสเตอรอล: เช่น สแตติน เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  • ยาแอสไพริน: ใช้ในบางกรณีเพื่อลดความเสี่ยงของลิ่มเลือด
  • ยาลดความดันโลหิต: เช่น ACE inhibitors หรือ beta-blockers เพื่อช่วยควบคุมความดันโลหิต
  • ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด: เช่น วาร์ฟาริน สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงของลิ่มเลือดในหัวใจ

การรักษาด้วยการผ่าตัดหรือขั้นตอนการแทรกแซง

  • การติดตั้งหลอดเลือด (Angioplasty): ขั้นตอนนี้รวมถึงการใส่บอลลูนและหลอดเลือดเทียมเพื่อขยายหลอดเลือดที่ตีบตัน
  • การผ่าตัดบายพาสหัวใจ: การสร้างเส้นทางเลือดใหม่รอบพื้นที่ที่มีปัญหาในหลอดเลือดหัวใจ
  • การผ่าตัดซ่อมแซมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจ: สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ

การใช้เครื่องมือช่วยเหลือ

  • เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker): สำหรับการควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ
  • เครื่องช่วยหัวใจ (Ventricular assist devices, VADs): ใช้ในผู้ป่วยที่มีหัวใจล้มเหลวรุนแรง

การจัดการกับอาการและภาวะแทรกซ้อน

  • การติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
  • การเข้ารับการตรวจติดตามเป็นประจำ

การป้องกันโรคหัวใจย่อมดีกว่าการเป็นแล้วมารักษาทีหลัง ดังนั้นเมื่อคุณสังเกต และเห็นถึงความเสี่ยงที่อาจจะเป็นอาการโรคหัวใจ คุณควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อยืนยันให้คุณแน่ใจในข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และอาจต้องมีการปรับการใช้ชีวิตของคุณเพื่อตัวของคุณเอง อย่าง การเลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพ, การออกกำลังกาย, การควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมกับรูปร่างของคุณ และการหยุดสูบบุหรี่และงดหรือลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะช่วยป้องกันการกระตุ้นภาวะตั้งต้นการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สำคัญ ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเส้นเลือดหรือการมีระดับคอเลสเตอรอลสูง และภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เป็นต้นค่ะ

หมวดหมู่