ดื่มน้ำน้อยเกินไป ส่งผลเสียกับร่างกาย อย่างไรบ้าง
น้ำเป็นสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของร่างกายทุกๆ ระบบ รวมถึงการส่งผ่านสารอาหาร การเคลื่อนย้ายของของเสียในร่างกาย การควบคุมอุณหภูมิ และการทำงานของเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย
หลายคนละเลยการดื่มน้ำบ่อยๆ ที่หลายๆ คนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ในความเป็นจริงแล้วการดื่มน้ำน้อยเป็นสาเหตุหนึ่งของ อาการ ง่วงซึม อ่อนเพลีย ผิวแห้ง ตาแห้ง ปากแห้ง ท้องผูกปวดศีรษะ ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ ชีพจรเต้นเร็ว หายใจถี่ หอบถี่ ไตทำงานหนักขึ้น และปัสสาวะมีสีเข้ม เพราะน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ถ้าใครรู้ตัวว่าดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อวัน ลองดูผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อร่างกายดังต่อไปนี้
ส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร
น้ำเป็นส่วนสำคัญในการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร ถ้าดื่มน้ำน้อยเกินไป การย่อยอาหารจะแปรปวนอาจทำให้ปวดท้องได้
ส่งผลต่อการทำงานของไต
น้ำช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกาย ถ้าเราดื่มน้ำน้อยเกินไป ของเสียที่ต้องถูกขับออกจากร่างกายอาจสะสมอยู่ในไต ทำให้เกิดการอักเสบและการเสื่อมของไต
ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ
น้ำช่วยในการควบคุมความชื้นของระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินหายใจที่มีความชื้นไม่เพียงพออาจทำให้คุณป่วยจากโรคต่างๆ เช่น อาการแพ้, สิวเสี้ยน, และโรคอื่นๆ
ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
ร่างกายขาดน้ำจะส่งผลต่อความสามารถในการคิดและจดจำ ทำให้ความสามารถในการทำงานลดลง และทำให้เรารู้สึกเหนื่อยง่าย
การเสื่อมโทรมของผิวหนัง
น้ำช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นและความอ่อนเยาว์ของผิวหนัง ถ้าดื่มน้ำน้อยเกินไป ผิวหนังของคุณจะเสื่อมไปและมีโอกาสเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ
การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย
น้ำทำให้ร่างกายสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ถ้าดื่มน้ำน้อยเกินไป อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้สมเหตุสมผล ทำให้คุณรู้สึกเย็นหรือร้อนมากเกินไป
สรุป
การดื่มน้ำน้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายขาดน้ำและส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นที่คุณต้องดื่มน้ำเพียงพอต่อวัน เพื่อรักษาสุขภาพ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว ต่อวัน หรือดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5 ลิตรต่อวัน เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้จากพฤติกรรมเล็กอย่างการดื่มน้ำ ซึ่งมักจะถูกมองข้ามได้ง่าย แท้จริงแล้วการดื่มน้ำสำคัญอย่างไร เราควรสังเกตตัวเองว่าได้ดื่นน้ำน้อยเกินไป หรือไม่
