ธนาคาร ธ.ก.ส. ออกโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมผลไม้ในปี 63 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีเงินหมุนเวียนและสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจรับซื้อผลไม้
- วิธีเช็คสิทธิ์เยียวยาเกษตรกร 5 พันบาท โอนเงินวันแรก 1 ล้านคน
- เตรียมตัวให้พร้อม! ธกส.เปิดให้ลงทะเบียน”เยียวยาเกษตรกร”คืนนี้
- เช็คสิทธิ์เยียวยาเกษตรกร www.moac.go.th ข้อมูลครบจบในเว็บเดียว
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงกรณีที่ทาง ธ.ก.ส. ได้จัดโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมผลไม้ ในปี พ.ศ. 2563 เป็นการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนและสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจรับซื้อรวบรวมผลไม้ของเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร ที่มีวงเงินสินเชื่อรวม 1,000 ล้านบาท
โดยโครงการนี้จะช่วยดูดซับปริมาณผลไม้ในช่วงฤดูกาลเพื่อไม่ให้ราคาตกต่ำและเพิ่มทางเลือกในการกระจายไปยังแหล่งจำหน่ายต่าง ๆ รวมทั้งยกระดับมาตรฐานสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกรผู้ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ปี 2563 กลับกรมส่งเสริมการเกษตร
โดยจะมีการเรียงผลไม้หลัก 7 ชนิดได้แก่ มังคุด ลิ้นจี่ มะม่วง เงาะ ทุเรียน ลำไย และลองกอง มีระยะเวลาจ่ายเงินกู้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2563

ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อต้องเป็นเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกรหรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีประสบการณ์ในการรวบรวมผลไม้ ดังนี
เกษตรกร วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจาก ลูกค้ารายย่อยชั้นดีเท่ากับ 6.50% ต่อปี
กลุ่มเกษตรกร วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ หรือ MLR ปัจจุบันเท่ากับ 4.875% ต่อปี
สหกรณ์การเกษตร สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ หรือ MLR ปัจจุบันเท่ากับ 4.875% ต่อปี

กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สูงสุดไม่เกิน 20 เท่าของเงินทุนตนเอง และไม่เกิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ หรือ MLR ปัจจุบันเท่ากับ 4.875% ต่อปี
ทั้งนี้ โครงการนี้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะชดเชยดอกเบี้ยให้ 3.00% ต่อปี ในช่วง 6 เดือนแรกนับจากวันที่จัดทำสัญญาเงินกู้ โดยกำหนดชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันที่จัดทำสัญญาเงินกู้ และไม่เกินวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564