เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 63 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำ 1662/2561 ที่ห้องพิจารณา 301 ศาลอาญามีนบุรี ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 12 (มีนบุรี) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยคือ นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ (เสก LOSO) อายุ 46 ปี ในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่พนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 , เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พ.ศ.2490 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. 60 โดยเมื่อถึงเวลานัดจำเลยมาศาลพร้อมภรรยา ในชั้นพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพข้อหาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
- ศาลสั่งจำคุก “ไอซ์ หีบเหล็ก” 10 ปี 5 เดือน ข้อหาครอบครองยาบ้า-กัญชา
- ศาลสั่งประหาร “กฤษฎา ไชยแค” มือบึ้มเวทีกปปส.อนุสาวรีย์ฯ
- ทนายอนันต์ชัย ยื่นมือช่วย “แหม่มโพธิ์ดำ” ปมแฉกักตุนแมสก์
- จิตรลดา หญิงป่วยทางจิตก่อเหตุสยอง ใช้มีดแทงเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิต
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 61 ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหา รวมเป็นจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน
โดยศาลไม่รอการลงโทษเเม้ว่าจำเลย อ้างป่วยเป็นโรคไบโพล่าขณะกระทำผิดเนื่องจากเห็นว่า จากพฤติการณ์การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่พบว่าจำเลยรู้ผิดชอบดี จึงไม่อาจอ้างภาวะป่วยดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งศาลเคยให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีในการรอลงอาญาคดีอื่นไว้แล้ว แต่จำเลยยังมากระทำผิดซ้ำในช่วงเวลารอลงอาญาอีก จึงไม่สมควรให้รอลงอาญา และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
ขณะที่ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจำคุก 5 เดือนลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำคุก 1 ปี 15 เดือน บวกโทษจำคุก 1 ปี 3 เดือน ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ3705/2559 ของศาลอาญาเข้ากับโทษของจำเลย ในคดีนี้ เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน ยกคำขอให้นับโทษต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 971 / 2561ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ภายหลัง มีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวมูลค่า 600,000 บาท เมื่อเวลา 16.45 น. ศาลอาญาพิจารณาเเล้วเห็นควรอนุญาตส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้ศาลฎีกาพิจารณาประกัน โดยต่อมาเมื่อเวลา 16.45 น. ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ประกันตัวได้ด้วยหลักทรัพย์ 600,000 บาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไข
