เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันวิสาขบูชา วันพุธ ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ความว่า
“ดิถีวิสาขบูชาอันเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นวันสำคัญสากลของโลก มีกาลกำหนดขึ้นไว้เป็นนักขัตฤกษ์พิเศษ เพื่อให้พุทธบริษัทได้กระทำสักการบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยดวงจิตตั้งมั่นในความเชื่อ และความเลื่อมใสต่อพระพุทธคุณ ซึ่งเป็นโอสถวิเศษ และเป็นเครื่องป้องกันสรรพพิบัติภัยทั้งปวง
- “ในหลวง-พระราชินี” ทรงเย็บหน้ากากผ้าพระราชทาน ฯ เนื่องในวันคล้ายวันราชาภิเษกสมรส
- “ในหลวง” พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ” ให้แก่ 20 โรงพยาบาล
- ๒ เมษายน วันคล้ายวันพระราชสมภพ กรมสมเด็จพระเทพฯ ๖๕ พรรษา
- กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานศูนย์ฝึกอบรมใช้พักฟื้นผู้ป่วยโควิด-19
ภัยใหญ่หลวงสำหรับทุกชีวิต ตามหลักพระพุทธศาสนามี ๓ ประการ กล่าวคือ ความแก่ ๑ ความเจ็บ ๑ และความตาย ๑ ไม่มีภัยอื่นใดที่ผู้คนหวาดหวั่นครั่มคร้ามไปมากกว่าภัยทั้งสามประการนี้อีกแล้ว
พระพุทธองค์ผู้ทรงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ ได้โปรดประทานหนทางดับภัยไว้แล้วแก่โลก กล่าวคือ ‘อริยมรรค’ ซึ่งเป็นไปเพื่อละ เพื่อล่วงพ้นภัย ย่อมดับเหตุแห่งการเกิดที่นำไปสู่ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ได้อย่างสิ้นเชิง
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระปัจฉิมวาจาก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า ‘วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ’ แปลความว่า ‘สังขารมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด’ จึงขอทุกท่าน หันกลับมาพิจารณาชีวิตของตนๆ ผู้ล้วนกำลังเผชิญภยันตรายกันอยู่ทั่วหน้า โดยไม่อาจทราบได้ว่าความเจ็บและความตายจะมาถึงเมื่อไร
ขอจงเร่งสั่งสมอบรม ‘ความไม่ประมาท’ ให้ถึงพร้อม ขอจงเร่งขวนขวายสั่งสมเพิ่มพูนกุศลธรรมให้เจริญงอกงามขึ้นในตน เพื่อผลคือ ‘สติ’ และ ‘ปัญญา’ อันสามารถช่วยให้ล่วงพ้นจากภัยได้ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ
ขอสาธุชนอย่าละเลยการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อันนับเป็น ‘ปฏิบัติบูชา’ ที่พึงกระทำต่อพระรัตนตรัย เพื่อความดำรงมั่นแห่งพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประทีปส่องใจเวไนยนิกรทั้งปวงสืบไป ตลอดกาลนาน เทอญ.”