วันที่ 24 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า จากสถานการณ์และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ปัจจุบันสายการบินตัดสินใจเริ่มกลับมาให้บริการเส้นทางในประเทศอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทาง ทั้งการกลับบ้านหรือภาคธุรกิจ
- “การบินไทย” ประกาศยกเลิกเที่ยวบินทุกเส้นทาง นาน 2 เดือน
- “ไทยแอร์เอเชีย” ประกาศหยุดบินภายในประเทศทุกส้นทาง
- สู้โควิดไม่ไหว! การบินไทย หยุดบินทั่วโลก เริ่ม 25 มี.ค. 63
- Bangkok Airways ประกาศหยุดบินระหว่างประเทศทุกเส้นทาง
โดยสายการบินได้ประชุมร่วมกับสำนักงานกรมการบินพลเรือนแห่งประเทศ ไทย (กพท.) และสายการบินต่างๆ เพื่อเริ่มบินบางเส้นทางภายในประเทศ อาทิ เส้นทางดอนเมืองสู่ เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราช ธานี นครพนม ร้อยเอ็ด นครศรีธรรมราช ตรัง หาดใหญ่ สุราษฎร์ ธานี และเส้นทางข้ามภาค เชียงใหม่-หาดใหญ่ ทั้งนี้สายการบินจะอัพเดตให้ทราบเส้นทางต่างๆ เพิ่มเติม ผ่านเฟซบุ๊กแอร์เอเชีย
ความสำคัญสูงสุดในการกลับมาให้บริการอีกครั้งในเส้นทางภายในประเทศครั้งนี้คือ มาตรการกำกับดูแลด้านสุขอนามัย และความสะอาดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างรัดกุมที่สุดเพื่อผู้โดยสารและพนักงานทุกคน โดยได้เพิ่มข้อกำหนดใหม่ๆ เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนมั่นใจมากขึ้น และเดินทางกับสายการบินได้อย่างปลอดภัยร่วมกัน
ทั้งนี้ ในการกลับมาให้บริการเส้นทางภายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 63 นี้ สายการบินแอร์เอเชีย ได้กำหนดมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันและลดโอกาสการแพร่ระบาดของ COVID-19 ดังต่อไปนี้
การเว้นระยะห่างผู้โดยสารบนเครื่อง แบบที่นั่งเว้นที่นั่ง โดยสายการบินจะจำหน่ายและควบคุมปริมาณที่นั่งในการเดินทางที่เหมาะสมในทุกเที่ยวบินตามข้อกำหนด รวมทั้งการกำหนดจุดยืนเว้นระยะห่างในรถบัสรับส่ง และเคาน์เตอร์บริการต่างๆ
การกำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทาง จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อใช้บริการ
การงดจำหน่าย รวมทั้งไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
การกำหนดมาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่รัดกุมร่วมกับท่าอากาศยาน การตรวจวัดอุณหภูมิที่ประตูขึ้นเครื่อง ทั้งนี้ หากพบว่าผู้โดยสารมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.3 องศาเซลเซียส มีอาการไอ จาม หรือเข้าข่ายผู้ต้องเฝ้าระวัง สายการบินอาจจำเป็นต้องปฏิเสธการเดินทางนั้น
อนุญาตให้นำเฉพาะกระเป๋าถือหรือกระเป๋าคอมพิวเตอร์ น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัมขึ้นเครื่องได้ 1 ใบเท่านั้น โดยมีขนาดไม่เกิน สูง 40 ซม. X กว้าง 30 ซม. X ลึก 10 ซม. ส่วนสัมภาระอื่นที่มีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม สามารถโหลดลงใต้ท้องเครื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แนะนำให้ผู้โดยสารทุกคนเช็คอินด้วยตนเองผ่านเว็บ โมบาย หรือคิออสเช็กอิน เพื่อลดโอกาสสัมผัส สำหรับผู้โดยสารกับพนักงานผู้ให้บริการ
นอกจากนี้ ลูกเรือที่ปฏิบัติหน้าที่บนเที่ยวบิน รวมถึงพนักงาน จะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายในทุกๆ ครั้ง ก่อนและหลังการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงจะสวมอุปกรณ์ป้องกัน ได้แก่ หน้ากากอนามัย แว่นตา และถุงมือ ตลอดการให้บริการ
ผู้โดยสารที่มีความจำเป็นและต้องการเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 63 นี้ สามารถสำรองที่นั่งและตรวจสอบเที่ยวบินที่ให้บริการได้แล้วที่ www.airasia.com โมบายแอพพลิเคชั่น และเคาน์เตอร์แอร์เอเชียประจำท่าอากาศยานทั่วประเทศ