เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 63 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ลงนามคำแนะนำถึงถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย โดยขอความร่วมมือจากประชาชนชาวไทยผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศในช่วงเดือนรอมฎอนปีนี้ ซึ่งจะเริ่มในห้วงระหว่างวันที่ 24 หรือ 25 เม.ย. – 23 หรือ 24 พ.ค. 63 โดยขอความร่วมมือให้ผู้ที่ถือศีลอดปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- “ร.พ. รือเสาะ” งดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป หลังคนไข้ปกปิดป่วยโควิด-19
- ทีมแพทย์รพ.รามาฯ รักษาผู้ป่วยวิกฤติโควิด-19 หายกลับบ้านได้แล้ว
- จิมมี่ ชวาลา บริจาคผ้า 10,000 หลา ให้ รพ.มหาราชเมืองคอนทำหน้ากาก
- รพ.รามาฯ ติดตั้งหม้อ UV-C-หม้ออบร้อน ฆ่าเชื้อหน้ากาก N95 นำกลับมาใช้ซ้ำ
1.หลีกเลี่ยงการทักทายสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือสลามกันเท่านั้น
2.งดการไปร่วมละหมาดญะมาอะฮ์หรือละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด และปฏิบัติตามประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอย่างเคร่งครัด โดยแนะนำให้ปฏิบัติศาสนกิจภายในบ้าน
3.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน และงดการแบ่งปันอาหารให้แก่กัน หากจำเป็นให้นั่งห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร และไม่จัดอาหารแบบใส่ถาดรวม (บุฟเฟต์) ให้แยกเป็นอาหารจานเดียว มีช้อนส้อมและแก้วน้ำเฉพาะของตนเอง และล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร
4.หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนเป็นจำนวนมาก หากจำเป็นควรเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลให้สะอาดอยู่เสมอ
5.กรณีมีความจำเป็นต้องปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิด แนะนำให้เปิดหน้าต่างและผ้าม่านเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก งดการใช้เครื่องปรับอากาศ และให้คัดกรองทุกคนก่อนเข้ามัสยิด หากมีอาการไข้ (อุณหภูมิตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส) ไอ เจ็บคอ แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดเข้าร่วมและแนะนำให้สังเกตอาการที่บ้าน
6.หากมีการสัมผัสบุคคลหรือไปสถานที่เสี่ยง เมื่อกลับเข้าบ้าน แนะนำให้รีบทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำสระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้า
7.เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และดื่มน้ำสะอาดมากๆ หลังรับประทานอาหาร นอกจากจะเป็นข้อควรปฏิบัติในการถือศีลอดที่ถูกต้องแล้วยังช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำในสภาพอากาศร้อนด้วย