จากกรณี พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า คณะอนุกรรมการด้านผังรายการ และเนื้อหารายการได้ทำหนังสือถึง รายการ “ช่องส่องผี” เพื่อให้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงด้านผังรายการและเนื้อหารายการ
- กสทช. งดจ่ายโบนัสพนักงาน นำเงินส่งคืนแผ่นดิน สู้วิกฤติโควิด-19
- กสทช.ไฟเขียว 17 ช่องทีวีเพื่อการศึกษา เริ่มออกอากาศ 18 พ.ค.63
- เผยรายชื่อ “69 รพ.” ได้รับเงินสนับสนุนจาก กสทช. สู้วิกฤตโควิด-19
- “รมว.ดีอีเอส” เตรียมหารือ กสทช. – ค่ายมือถือ ลดภาระค่าโทรศัพท์ของประชาชน
ล่าสุด พล.ท.พีระพงษ์ เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เชิญผู้เชี่ยวชาญภายนอกจากกระทรวงมหาดไทยมาให้ความเห็นในกรณีการรับบริจาค และผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงวัฒนธรรมให้ความเห็นในเรื่องประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานได้ให้ความเห็นต่างกัน สำหรับกรณีการบริจาคเป็นปัญหาของกฎหมายซึ่งยังไม่ชัดเจน เพราะเป็นกฎหมายเก่า เพราะฉะนั้นเรื่องการรับบริจาคอยู่ระหว่างเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งต้องดูอีกครั้งว่าการขอบริจาคทางสื่อจะเข้าข่ายผิดหรือไม่ผิด
ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมให้ความเห็นในกรณีประวัติศาสตร์ว่า จริง ๆ แล้วเป็นการนำเสนอที่ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะว่าประวัติศาสตร์ จะเปลี่ยนได้ก็ต่อเมื่อมีวัตถุพยาน ข้อมูลรองรับจนกระทั่งรู้สึกว่าเรื่องใหม่เป็นเรื่องที่จริงที่น่าเชื่อถือได้ กว่าเรื่องเก่า แต่เรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อนอกระบบไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
โดยคำให้การของผู้เชี่ยวชาญภายนอก สรุปแล้วเห็นว่าการนำเสนอรายการนี้มีปัญหา 2 ข้อ คือ
1.การทรงเจ้าหรือร่างทรง เป็นการใช้ความเชื่อนอกระบบที่พิสูจน์ไม่ได้ จึงไม่ควรนำมาเสนอผ่านรายการทางโทรทัศน์ เพราะจะทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องเชื่อว่าเป็นความจริง
2.เนื้อหาในเชิงประวัติศาสตร์ต่อบุคคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่มีเนื้อหาที่สามารถพิสูจน์ได้ เป็นการกล่าวอ้างของร่างทรง ซึ่งวิเคราะห์แล้วเห็นตรงกันว่าผิดเพี้ยน เนื้อหารายการจึงส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบุคคลที่ประชาชนเคารพนับถือ
สำหรับบทลงโทษในครั้งนี้ทางอนุคณะกรรมการได้มีคำตัดสินว่า รายการดังกล่าว เป็นการออกอากาศที่ผิดขัดต่อมาตรา 37 ซึ่งโทษปรับได้สูงสุด 500,000 บาท แต่คณะอนุกรรมการฯ ได้ยกระดับให้หยุดทำรายการ และระงับรายการ 1 ครั้ง แต่เนื่องจากทางช่องได้มีความรับผิดชอบส่วนตัว และมีวิจารณญาณที่ดีมาก ได้ถอดรายการออกไป จึงสั่งให้จอดำ 1 ครั้ง ในช่วงเวลาที่เคยออกอากาศ “ช่องส่องผี” แม้ว่าทางช่องจะถอดรายการออกไปแล้ว
ทั้งนี้ การสั่งระงับในครั้งนี้ต้องการทำให้สังคมรู้ว่าทางช่อง และทาง กสทช.ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น