วันนี้ (3 ก.ค.63) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท เอ็นพีซี อินเทอร์เนชันแนล (NPC International Inc. ) เจ้าของแฟรนไชส์รายใหญ่ที่สุดของร้าน Pizza Hut ที่มีมากถึง 1,225 สาขาในสหรัฐฯ ยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายแล้ว เมื่อวันพุธที่ 1 ก.ค. 63 หลังต้องปิดร้านช่วงการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการประกอบกิจการ
- ครม. ไฟเขียว “การบินไทย” ยื่นศาลล้มละลายฟื้นฟูกิจการ – พ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ
- ราชกิจจาฯประกาศ ปลดนามสกุลดัง “ณ ป้อมเพ็ชร” จากบุคคลล้มละลาย
- ราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้ “ภูริทัต โตคงทรัพย์” ล้มละลาย
- “วิคตอเรีย ซีเคร็ท” เตรียมปิด 250 สาขาถาวร เซ่นวิกฤตโควิด-19
ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลการยื่นล้มละลาย เนื่องจากมีต้นทุนในการดำเนินงานเพิ่มมากขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำในสหรัฐฯ อีกทั้งยอดขายไม่เติบโตตามเป้าหมายที่วางเอาไว้
นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้ยอดขายของ Pizza Hut ในสหรัฐฯ เติบโตได้ไม่ดีเหมือนเดิม มาจากการที่หลายแบรนด์คู่แข่งเข้ามาตีตลาด และเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น อาทิ Domino’s Pizza และ Papa John’s Pizza ประกอบกับการต้องปิดหน้าร้านในช่วงโควิด-19 ระบาดในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกับยอดขาย ทำให้ NPC International ไม่สามารถหารายได้มาชำระหนี้ได้ทันเวลาได้
ทั้งนี้ NPC มีหนี้กว่า 903 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.88 หมื่นล้านบาท โดยได้เริ่มเจรจากับเจ้าหนี้ไปบางส่วนแล้ว แผนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ ซึ่งข้อตกลงล่าสุดเจ้าหนี้จะมีส่วนร่วมในการเพิ่มทุนใหม่ แต่จะต้องขายร้านอาหารบางส่วนออกไปอีกด้วย