เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณา 703 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 หมายเลขดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 , นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน , นายวันชัย นาพุทธา , นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.เป็นจำเลยที่ 1 – 7 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ
- “หม่อมเต่า” ยื่นใบลาออก ทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย
- นายกฯ แต่งตั้ง “สุภดิช – ภาสกร ” ส.ส. เศรษฐกิจใหม่ เป็นวิปรัฐบาล
- ราชกิจจาฯ ประกาศ ” ดีอีเอส ” แต่งตั้ง 14 พนักงานสืบสวนการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
- ด่วน! กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ 18 คน ขอลาออก ส่งผลให้ทั้งคณะพ้นตำแหน่ง!
กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2550 แกนนำและแนวร่วม นปช.นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน จากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธง ตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.2558 ให้จำคุกนายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วนนายวีระกานต์ , นายณัฐวุฒิ , นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4 – 7 คนละ 4 ปี 4 เดือน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าพนักงานฯ ให้ยกฟ้องนายวีระศักดิ์และนายวันชัย จำเลยที่ 2 – 3 ริบของกลางทั้งหมด
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2560 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า พวกจำเลยมีความผิดฐานเป็น ผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม , มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม เพียงกรรมเดียว จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4 – 7 คนละ 4 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4 – 7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ยกฟ้องจำเลยที่ 2 – 3
โดยวันนี้ นายนพรุจ จำเลยที่ 1 , นายวีระกานต์ , นายณัฐวุฒิ , นายวิภูแถลง , นพ.เหวง แกนนำ นปช.จำเลยที่ 4 – 7 ทั้งหมดเป็นจำเลยที่ต้องสู้คดีถึงชั้นฎีกา เดินทางมาถึงศาลครบทุกคน ในเวลาประมาณ 09.30 น.หลังจากก่อนหน้านี้มีเหตุต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้ว 4 ครั้ง โดยมี นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษา นปช. , นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมมวลชนส่วนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ ขณะที่แกนนำ นปช.ต่างให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมยอมรับผลคำพิพากษา เชื่อมั่นขบวนการประชาธิปไตยที่เติบโตขึ้น ขอบคุณกำลังใจจากมวลชน ยืนยันจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป ไม่ว่าจะมีอิสรภาพหรือไม่
ล่าสุด ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 , 4 – 7 มีพฤติการณ์ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเป็นเรื่องร้ายแรง ที่จำเลยทั้งหมดฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากลงโทษพวกจำเลยมานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืนจำคุกจำเลยที่ 1 , 4 – 7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา โดยขั้นตอนต่อไปจะนำจำเลยทั้งหมดส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป