นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มดำเนินการในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อจัดการผลผลิต ควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ทั้งสินค้าเกษตรทั่วไป สินค้าที่ได้มาตรฐาน และสินค้าพรีเมี่ยม ให้ตรงตามความต้องการของตลาด จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและบูรณาการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร
เพื่อสร้างความตระหนักรู้ กระตุ้นให้เกิดการปรับตัว เสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้กับภาคเกษตรและภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามนโยบายของกระทรวงเกษตร ที่ผ่านมากรมส่งเสริมการเกษตร ได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ โดยสามารถเชื่อมโยงการผลิตและการตลาด กับภาคธุรกิจต่างๆ หลายหน่วยงาน เช่น เทสโก้ โลตัส ได้ร่วมมือกัน โดยร่วมกันคัดเลือกกลุ่มแปลงใหญ่ผักผลไม้ที่มีศักยภาพทั้งการบริหารจัดการกลุ่ม
และพื้นที่ตั้งแปลงเหมาะสมต่อการขนส่งผลผลิต โดยมีเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่าย ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง กำกับ ดูแลอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันมีแปลงใหญ่ผักที่ดำเนินการร่วมกับ เทสโก้ โลตัส จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ เกษตรกรแปลงใหญ่บ้านโนนเขวา อ.เมือง จ.ขอนแก่น, เกษตรกรแปลงใหญ่ บางท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี , เกษตรกรแปลงใหญ่บ้านนาคูร่วมใจพัฒนา อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักปลอดภัย ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน
โดยกรมส่งเสริมการเกษตร และเทสโก้ โลตัส ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร สู่ตลาดนำการเกษตรร่วมกัน เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาทำให้เกษตรกรมีรายได้เข้าสู่ชุมชนและเกิดการต่อยอดในชุมชนได้เป็นอย่างดี
นายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การดำเนินงานระหว่างกลุ่มเกษตรกร และเทสโก้ โลตัส ในการรับซื้อผลผลิตปลีก ทั้งสองฝ่ายมีการตกลงร่วมกัน ในเรื่องของชนิด ปริมาณ ราคาซื้อขายผลผลิตพืชผัก โดยตกลงกันล่วงหน้าทุก 2 – 3 เดือน จากนั้นกลุ่มเกษตรกรจะประชุมหารือร่วมกันเพื่อวางแผนการผลิตให้ได้ผลผลิตตามที่ตกลงไว้กับเทสโก้ โลตัส ซึ่งทำให้เกษตรกรมีตลาดค้าปลีกที่แน่นอน มีส่วนร่วมในการกำหนดราคา ทราบรายได้ที่แน่นอนได้เรียนรู้ในการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
และสร้างความมั่นคงในอาชีพให้แก่เกษตรกรนอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เทสโก้ โลตัส ได้ให้พื้นที่แก่เกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อนำผลผลิตมาจำหน่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ในการเพิ่มช่องทางการตลาด และได้เรียนรู้ในการเป็นผู้จำหน่ายผลผลิตโดยตรง ทำให้ทราบความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำไปปรับปรุงในการผลิตของตนเองอีกด้วย