Home สุขภาพ รู้ทัน อาการมือชา เท้าชา สัญญาณสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม
สุขภาพความรู้รอบตัว

รู้ทัน อาการมือชา เท้าชา สัญญาณสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

อาการ มือชา เท้าชา เกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจเป็นเพียงอาการชั่วคราว หรืออาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงก็ได้ เรามาดูกันว่าอะไรเป็นสาเหตุ วิธีป้องกัน และแนวทางรักษาที่เหมาะสมกัน

สาเหตุของอาการมือชา เท้าชา

การไหลเวียนเลือดผิดปกติ

การนั่งหรือยืนท่าเดิมนาน ๆ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก

โรคหลอดเลือดตีบ หรือเส้นเลือดอุดตัน

เส้นประสาทถูกกดทับ

การใช้มือหรือเท้ามากเกินไป เช่น จับโทรศัพท์ พิมพ์งาน ใช้เครื่องมือหนัก

เส้นประสาทถูกกดทับ เช่น โรคพังผืดกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome)

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Herniated Disc)

ขาดวิตามินหรือสารอาหารสำคัญ

ขาดวิตามินบี 1, บี 6, บี 12 ทำให้เส้นประสาทเสื่อม

ขาดแร่ธาตุสำคัญ เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม หรือแมกนีเซียม

โรคทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ

โรคเบาหวาน ทำให้ปลายประสาทเสื่อม

โรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis)

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ผลข้างเคียงจากยา หรือสารพิษ

ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยากันชัก

การได้รับสารพิษ เช่น แอลกอฮอล์ ปรอท สารตะกั่ว

ภาวะทางจิตใจ และความเครียด

ความวิตกกังวลสูง อาจทำให้เกิดอาการชาตามร่างกาย

โรคแพนิค (Panic Disorder)

วิธีป้องกันอาการมือชา เท้าชา

ปรับพฤติกรรม

หลีกเลี่ยงการอยู่ท่าเดิมเป็นเวลานาน

เปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ เช่น ลุกขึ้นเดิน ขยับมือ ขยับเท้า

ดูแลสุขภาพร่างกาย

ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ โยคะ

บริหารข้อมือ นิ้วมือ และฝ่าเท้า เพื่อลดอาการตึงของเส้นประสาท

อาหารและโภชนาการ

รับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1, บี 6, บี 12 สูง เช่น ข้าวกล้อง เนื้อสัตว์ ไข่

ดื่มน้ำให้เพียงพอ ลดการบริโภคแอลกอฮอล์และคาเฟอีน

ลดความเครียด

ทำสมาธิ ฝึกหายใจลึก ๆ

พักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียดให้ดี

วิธีรักษาอาการมือชา เท้าชา

กรณีอาการชาชั่วคราว

ขยับร่างกาย ยืดกล้ามเนื้อ หรือเปลี่ยนอิริยาบถ

แช่น้ำอุ่น หรือใช้น้ำอุ่นประคบ

กรณีอาการเรื้อรัง หรือเกิดจากโรคประจำตัว

หากมีโรคเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี

หากมีภาวะขาดวิตามิน ควรเสริมอาหารหรือวิตามินที่จำเป็น

กายภาพบำบัด หรือฝังเข็ม อาจช่วยบรรเทาอาการ

เมื่อใดควรไปพบแพทย์

อาการชาต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือรุนแรงขึ้น

มีอาการอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบ หรือเดินลำบาก

มีอาการร่วม เช่น เวียนหัว พูดไม่ชัด หรือตาพร่ามัว

สรุป

อาการมือชา เท้าชา อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท หรือโรคเรื้อรังบางชนิด หากอาการเป็นชั่วคราว อาจใช้วิธีปรับพฤติกรรมและดูแลสุขภาพ แต่ถ้ามีอาการเรื้อรังหรือรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

หมวดหมู่